หมอเตือนแล้ว!! ให้ระวัง “กลอย” ในฤดูฝนมีความเป็นพิษสูงประชาชนควรเพิ่มความระมัดระวัง
×
จากการเฝ้าระวังสถานการณ์อาหารเป็นพิษจากพืช ในช่วงปี พ.ศ. 2559–2563 กรมควบคุมโรคเฝ้าระวังเหตุการณ์อาหารเป็นพิษจากพืช พบมี เหตุการณ์จากการรับประทานกลอยทั้งหมด 11 ครั้ง โดยมีผู้ป่วย รวม 172 คน ส่วนใหญ่มักพบในช่วงฤดูฝน ภูมิภาคที่พบเหตุการณ์บ่อยครั้ง คือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ดร.นายแพทย์หิรัญวุฒิ แพร่คุณธรรม ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น ได้เปิดเผยว่า ในช่วงนี้สามารถพบผู้ป่วยที่ได้รับพิษจากการรับประทานกลอยได้ โดยเฉพาะในภาคอีสานที่นิยมนำกลอยมาประกอบเป็นอาหาร ทั้งนี้กลอยจะมีพิษมากในช่วงที่กลอยออกดอก คือช่วงหน้าฝนประมาณเดือนกรกฎาคม – ตุลาคม จึงทำให้ผู้ที่รับประทานกลอยในช่วงฤดูฝนจะเป็นอันตรายมากยิ่งขึ้น ซึ่งข้อมูลจากศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (สวทช.) ได้ให้ข้อมูลว่า “กลอย” เป็นพืชที่มีลักษณะทั่วไปเป็นไม้เถา มีหัวใหม่เกิดขึ้นทุกปีจากส่วนลำต้นใต้ดิน หัวมีขนาดต่างๆกันผิวสีฟางหรือเทา เนื้อในสีขาวถึงขาวนวล ในหัวกลอยมีแป้งและมีสารที่มีพิษชื่อว่า ไดออสคอรีน (dioscorine) ซึ่งมีฤทธิ์กดและกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน หายใจลำบาก และหัวใจเต้นผิดจังหวะ ทั้งนี้ผู้ที่ได้รับพิษจะมีอาการรุนแรงไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับปริมาณสารพิษ ความต้านทานของแต่ละคน สำหรับผู้ที่มีอาการได้รับพิษจากกลอย ห้ามกระตุ้นให้อาเจียนเพราะสำลัก แนะนำให้รีบพาผู้ป่วยไปโรงพยาบาลทันที พร้อมเก็บตัวอย่างกลอย เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยได้เร็วขึ้น
เนื่องจากสารพิษในกลอยสามารถละลายน้ำได้ดี ดังนั้นหากเอาน้ำละลายสารพิษออกมาได้หมด ก็สามารถรับประทานได้ ซึ่งต้องใช้เวลาชะล้างสารพิษไม่ต่ำกว่า 7 วัน ในสมัยก่อนมีวิธีการล้างพิษกลอยด้วยการฝานหัวกลอยเป็นชิ้นบางๆแล้วนำมาแช่น้ำไหลผ่าน เช่น ในลำธาร หรืออีกวิธีหนึ่งคือนำไปแช่ในน้ำเกลือเข้มข้น โดยเกลือจะทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนสารไดออสคอรีนในแผ่นกลอยได้เร็วขึ้น แต่ต้องถ่ายน้ำทิ้งหลายๆ ครั้ง และใช้เวลาแช่ไม่ต่ำกว่า 3 วัน ซึ่งการรับประทานกลอยให้ปลอดภัยต้องผ่านกรรมวิธีหลายขั้นตอน และต้องมีความชำนาญในการล้างพิษกลอยเป็นพิเศษ
ถึงแม้จะมีวิธีกำจัดพิษกลอยที่มีมาแต่โบราณ แต่ก็ยังไม่มีวิธีการใดที่บอกได้แน่ชัดว่ากลอยจะหมดพิษ ดังนั้นการแช่น้ำไว้หลายวัน หรือการล้างกลอยไปเรื่อยๆจนกว่าเมือกที่ผิวกลอยจะหมดนั้น ก็ไม่ใช่สิ่งที่ยืนยันว่าจะปลอดภัย 100% ดังนั้นจึงขอเตือนประชาชนให้ระมัดระวังหากจะรับประทานกลอยในช่วงฤดูฝน และไม่ควรให้เด็กรับประทานกลอยจะดีที่สุด เนื่องจากสารพิษกระจายตัวได้เร็วกว่าผู้ใหญ่ จึงอันตรายสำหรับเด็ก และที่สำคัญหากรับประทานแล้วเกิดอาการผิดปกติให้รีบพบแพทย์ทันที ทั้งนี้ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422
ข้อมูลที่มา : ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (สวทช.) , สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค